ปัจจุบัน “คาเฟ่” และ “ร้านกาแฟ” แหล่งแฮงเอาท์ พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของเหล่าคนรุ่นใหม่นั้นมีให้เห็นเกือบทุกมุมถนนในเมืองกรุงเทพฯ มีทั้งร้านที่เป็นอิสระ และร้านที่เป็นแบบแฟรนไชส์ให้เลือกนั่งมากมายเหลือเกิน ซึ่งวันนี้ pasticceriacagna จะพาผู้อ่านมาดู 5 ร้านคาเฟ่น่านั่งกัน จะมีร้านไหนบ้างไปตามอ่านกันได้เลย
Table of Contents
คาเฟ่ The Fairy Door
เอาใจทาสแมว กันหน่อยดีกว่า สำหรับ The fairy door ที่ทาสแมวหลายคนๆต้องมารวมกัน เป็นร้านที่ทำออกมาในธีม Alice in Wonderland ตกแต่งได้อย่างสวยงามน่าค้นหาที่สุด มีน้องแมวหลากหลายสายพันธุ์ แถมด้วยมุมถ่ายรูปสุดสวย อีกเพียบ มานั่งชิลๆก็ได้ หรือจะมาแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆก็ดี เพราะที่นี่ตอนกลางวันเป็น คาเฟ่ ส่วนตอนกลางคืนกลายร่างเป็นบาร์ ร้านนี้เปิดกันยาวๆ ตั้งแต่ 11 โมง ไปจนถึงตี 1 รับรองได้เลยว่า เพลิดเพลินกันอย่างแน่นอน
คาเฟ่ Cintage Cafe
มาถึงคิวสายหวานบ้างแล้ว ต้องที่ Cintage Cafe ใครที่ชอบสีชมพูห้ามพลาด บอกได้เลยว่าร้านนี้น่ารักใสๆ เป็นที่สุด ได้ฟิลลิ่งนั่งชิลๆเหมือนอยู่ในคาเฟ่ของเกาหลี มุมน่ารักๆ มีพร้อมให้ถ่ายรูปกันอีกหลายๆมุม เครื่องดื่มก็น่ารักไม่แพ้ที่ร้านเลย
คาเฟ่ Café Leitz by Pacamara
เอาใจคนรักการถ่ายรูปกันบ้าง กับร้าน Café Leitz by Pacamara ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์คาเฟ่ สำหรับคนที่รักเจ้ากล้องไลก้าจริงๆ โดยทางร้านผสานความรื่นรมย์ของชีวิตของคนรุ่นใหม่เข้าไป ทั้งการถ่ายภาพ อาหารและกาแฟ รวมไว้ที่เดียว ร้านนี้ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คุมโทนด้วยสีดำ ขาว เทา และน้ำตาล ในรูปแบบแนวคิด “Well to Do Well to Live” พร้อมบริการให้ทดลอง ใช้กล้องไลก้า จากการสัมผัสประสบการณ์โดยตรงอีกด้วย คนที่รักกล้อง รักการถ่ายรูปไม่ควรพลาดจริงๆ
คาเฟ่ Cheevit Cheeva Fine Desserts
เป็นอีกหนึ่งร้านขนมหวานน่าไปลอง อย่างร้าน Cheevit Cheeva Fine Desserts เป็นร้านขนมหวาน จากเจ้าดังที่เชียงใหม่ ที่มาเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพ แม้ขนาดร้านจะดูเล็กนิดนึง แต่บอกเลยว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเค้าตกแต่งร้านได้อย่างน่ารักมากๆ ด้วยการตกแต่งสไตล์คาเฟ่เกาหลี ผสมกับความมินิมอล เข้าไปเล็กน้อย สายคาเฟ่นี่ตกหลุมรักได้ง่ายๆ เลยหล่ะ
คาเฟ่ Kid Mai Death Cafe
มากันที่ร้านสุดท้าย Kid Mai Death Cafe เป็นอีกหนึ่ง คาเฟ่ ที่น่าสนใจสุดๆ เพราะเป็นคาเฟ่ที่จะทำให้เรา คิดได้ในหลายๆ อย่าง แถมยังมีกิจกรรมให้เราทดลองตาย ไม่ว่าจะเป็นการเขียนจดหมายถึงตัวเอง การเขียนพินัยกรรม หรือลองนอนในโลงศพ เราจะได้สัมผัสกับความรู้สึกว่า ถ้าต้องตายไปจริงๆจะรู้สึกเป็นอย่างไร ในตอนที่เรายังรู้สึกตัวอยู่ ส่วนด้านเครื่องดื่มของทางร้าน ก็มีให้เลือกหลากหลาย มีชื่อเมนูแปลกๆน่าสนใจมาก นั่นก็คือเมนู เกิด,แก่,เจ็บ,ตาย (BORN,ELDER,PAINFUL และ DEATH) ซึ่งในแต่ละแก้วจะมีการออกแบบที่บ่งบอกตามชื่อ คาเฟ่น่าสนใจขนาดนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว